PM2.5 ผลกระทบต่อระบบการหายใจ
ปัญหาจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
เป็นปัญหาที่สําคัญของประเทศไทย เนื่องจากยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่ตําบลหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางพื้นที่ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาเศษวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตร การจราจร ภูมิประเทศและภาวะความกดอากาศสูงทําให้เกิดสภาวะอากาศปิด จึงทําให้ความรุนแรงของปัญหาเพิ่มขึ้น และนอกจากนี้ยังมีปัญหาหมอกควันข้ามแดนในพื้นที่ทางภาคใต้ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี ซึ่งหากประชาชนได้รับผลกระทบจาก PM2.5 จะทําให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด เป็นต้น
องค์การอนามัยโลกระบุว่าการรับสัมผัส PM2.5 สูงกว่าค่าแนะนํา คือ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) จะส่งผลให้การตายด้วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 - 20 การป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 การตายและป่วยด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 - 5 การตายและป่วยด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ผู้สูงอายุป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มร้อยละ 17 ผู้สูงอายุป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มร้อยละ 7.6 และยังทําให้สภาพปอดในเด็กแย่ลง
เมื่อ PM2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบ (Inflammation) เยื่อบุผนังหลอดลมบวม เกิดการสร้างคัดหลั่งมากขึ้น จึงทําให้มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ หอบ นอกจากนี้ การอักเสบยังทําให้เกิดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น (Oxidative stress) ก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเข้าไปทําลายระบบต่าง ๆ ในเซลล์ของปอด ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ซึ่งจะทําให้เกิดมะเร็งปอดได้ในระยะยาว นอกจากนี้PM2.5 ยังมีองค์ประกอบของสารเคมีบางชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่นpolycyclic aromatic hydrocarbon (PAHS) หรือ VOCs อาจทําให้เกิดการกลายพันธ์ของ DNA และส่งผลให้เกิดมะเร็งปอดได้
ข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข ปี 2563
ดังนั้นปัญหา PM2.5 จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย อย่าลืมปกป้องร่างกายตัวเองและคนที่เรารักด้วยนะคะ
เป็นปัญหาที่สําคัญของประเทศไทย เนื่องจากยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่ตําบลหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางพื้นที่ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาเศษวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตร การจราจร ภูมิประเทศและภาวะความกดอากาศสูงทําให้เกิดสภาวะอากาศปิด จึงทําให้ความรุนแรงของปัญหาเพิ่มขึ้น และนอกจากนี้ยังมีปัญหาหมอกควันข้ามแดนในพื้นที่ทางภาคใต้ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี ซึ่งหากประชาชนได้รับผลกระทบจาก PM2.5 จะทําให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด เป็นต้น
องค์การอนามัยโลกระบุว่าการรับสัมผัส PM2.5 สูงกว่าค่าแนะนํา คือ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) จะส่งผลให้การตายด้วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 - 20 การป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 การตายและป่วยด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 - 5 การตายและป่วยด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ผู้สูงอายุป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มร้อยละ 17 ผู้สูงอายุป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มร้อยละ 7.6 และยังทําให้สภาพปอดในเด็กแย่ลง
เมื่อ PM2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบ (Inflammation) เยื่อบุผนังหลอดลมบวม เกิดการสร้างคัดหลั่งมากขึ้น จึงทําให้มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ หอบ นอกจากนี้ การอักเสบยังทําให้เกิดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น (Oxidative stress) ก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเข้าไปทําลายระบบต่าง ๆ ในเซลล์ของปอด ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ซึ่งจะทําให้เกิดมะเร็งปอดได้ในระยะยาว นอกจากนี้PM2.5 ยังมีองค์ประกอบของสารเคมีบางชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่นpolycyclic aromatic hydrocarbon (PAHS) หรือ VOCs อาจทําให้เกิดการกลายพันธ์ของ DNA และส่งผลให้เกิดมะเร็งปอดได้
ข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข ปี 2563
ดังนั้นปัญหา PM2.5 จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย อย่าลืมปกป้องร่างกายตัวเองและคนที่เรารักด้วยนะคะ